
ปากกระจับ ปากบาง
Lip Reduction

การผ่าตัดทำปากบางสามารถแบ่งได้เป็น ปากบนและปากล่าง
-
ปากบน สามารถทำให้เป็นทรงกระจับได้ มุมปากยกได้เล็กน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากไม่ได้หนาแต่ต้องการให้ปากได้รูปทรง และในรายที่มีริมฝีปากหนาต้องการทำให้ปากบางลง
-
ปากล่าง สามารถทำให้บางลงได้เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้เป็นรูปทรงอื่นได้
ก่อนเข้ารับการผ่าตัดจำเป็นต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่าผู้เข้ารับการผ่าตัดมีเนื้อริมฝีปากพอให้ตัดหรือไม่ เพราะหากว่ามีเนื้อริมฝีปากน้อยอยู่แล้วยังไปตัดออกเพิ่ม หรือตัดเนื้อออกมากเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ริมฝีปากดูบางเกินไป ปิดปากไม่สนิท หรือยิ้มเห็นเหงือกมากเกินไปได้ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นแล้วจะสามารถแก้ไขให้กลับคืนมาได้ยาก เนื่องจากเนื้อริมฝีปากได้ถูกตัดออกไปอย่างถาวร
ผู้ที่เหมาะกับการผ่าตัด
-
ผู้ที่มีริมฝีปากไม่ได้หนาแต่อยากให้ปากได้รูปทรง
-
ผู้ที่มีริมฝีปากหนาอยากให้ปากบางลง
-
ผู้ที่ปากล่างดูห้อย
รายละเอียดการผ่าตัด
หลังฉีดยาชาเสร็จ แพทย์จะทำการตัดหนังบริเวณริมฝีปากตามรอยที่วาดไว้ หยุดเลือดให้สนิท เนื่องจากบริเวณนี้จะมีเลือดมาเลี้ยงมาก จากนั้นทำการเย็บปิดแผล
การดูแลรักษาหลังผ่าตัด
-
ประคบเย็นในช่วง 3 วันแรกบริเวณที่ผ่าตัด
-
เช็ดทำความสะอาดแผลทุกวัน พยายามไม่ให้แผลโดนนํ้าจนถึงวันตัดไหม
-
ตัดไหมที่ 7 วัน หลังตัดไหมสามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้
-
ภาวะบวมจะหายเป็นปกติภายในระยะเวลา 3-6 เดือน
-
พยายามหลีกเลี่ยงอาหารร้อน อาหารรสจัด อาหารหมักดอง 1 เดือน
-
หลังตัดไหมให้ทำการนวดแผล โดยทำต่อเนื่องนาน 3 เดือน เพื่อลดโอกาสการเกิดแผลเป็นไตบริเวณที่ผ่าตัด
-
หลังทำใหม่ๆอาจจะอ้าปากได้ไม่เต็มที่ อาการนี้จะดีขึ้นเรื่อยๆจนหายเป็นปกติภายในระยะเวลา 3-6 เดือน
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้
-
แผลเป็นไตในช่วงแรกๆ ป้องกันได้โดยการนวดแผลอย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของแพทย์
-
ริมฝีปากดูบางเกินไป ซึ่งมักพบในผู้เข้ารับการผ่าตัดมีเนื้อริมฝีปากน้อยอยู่แล้ว
-
ยิ้มเห็นเหงือก โดยทั่วไปหลังผ่าตัด ปากจะบางขึ้น ทำให้อาจเห็นเหงือกมากขึ้นเล็กน้อยได้เวลายิ้ม ดังนั้นหากผู้เข้ารับการผ่าตัดมีความกังวลเรื่องนี้อยู่แล้วจะไม่แนะนำให้เข้ารับการผ่าตัด
ผลของการผ่าตัดจะอยู่ได้นานเเค่ไหน
อยู่ได้ตลอดไป อย่างไรก็ดีคนเราเมื่อถึงวัยชรา ริมฝีปากจะบางลงโดยธรรมชาติจึงทำให้ริมฝีปากดูบางมากขึ้นได้